Fade กับ Draw เป็นช็อตที่อยู่คู่วงการกอล์ฟมาตลอด และเป็นไปไม่ได้ที่นักกอล์ฟจะตีลูกได้ตรงตลอดเวลา ช็อตที่ยากที่สุดคือช็อตที่เจตนาตีให้ตรง ซึ่งเป็นช็อตที่เกิดขึ้นได้โดยความบังเอิญเท่านั้น

จริงหรือที่ว่า Fade ดีกว่า Draw

นักกอล์ฟอาชีพส่วนมากจึงนิยมที่จะตีลูกที่ไม่ Fade ก็ Draw ถ้าย้อนกลับไปดูตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นักกอล์ฟส่วนใหญ่มักจะเลือกที่จะตีลูกที่ติด Fade มากกว่า Draw ข้อดีของ Fade ก็คือเป็นลูกที่ตกแล้วหยุด ส่วน Draw ข้อดีของมันก็คือระยะ แต่ก็มีนักกอล์ฟหลายคนที่สามารถใช้วง Fade และวง Draw ไปได้พร้อมกัน

        เพราะการตีลูก Fade เป็นการใช้ร่างกายตีลูกแบบธรรมชาติกว่า Draw เพราะทุกอิริยาบถของการสวิงล้วนเป็นอาการที่ส่งเสริมเปอร์เซ็นต์ Fade ทั้งสิ้น จะมีกี่คนที่ฝึกปรือมาแล้วจะถนัดใช้ช่วงล่างในการเร่งมากกว่าจะเร่งจากช่วงบน

 ปัญหาของการนักกอล์ฟทั่วโลกอีกหนึ่งอย่างคือการแก้สไลซ์ ซึ่งคล้ายๆกับ Fade นั่นเอง มักจะมาจากการอยากเพิ่มระยะ จึงเลือกตีลูก Draw หรือตีจากข้างในให้มากขึ้น เป็นวิธีที่นักกอล์ฟใช้เพื่อลดอาการ Fade ส่วนนักกอล์ฟที่ตี Draw ได้อย่างเป็นธรรมชาติ มักจะมีการฝึกซ้อมวงนี้มาตั้งแต่เริ่มเล่นกอล์ฟจนกลายเป็นความเคยชิน เมื่อเกิดความเคยชินรวมกับความมุ่งมั่น นักกอล์ฟก็สามารถฝืนธรรมชาติได้อย่างสำเร็จเหมือนกัน

 นักกอล์ฟส่วนใหญ่มักจะตีกอล์ฟตามที่ตัวเองถนัด ไม่ได้มีความมุ่งมั่นพอที่จะศึกษาวิธีการตำราเรียน จึงเลือกที่จะตีความรู้สึก ตีตามธรรมชาติ แต่ถ้านักกอล์ฟที่มีความสามารถในการตีลูกสูงมาก สามารถสร้างวงสวิงที่หลากหลาย ก็จะเห็นได้ว่า นักกอล์ฟมืออาชีพมักจะเลือกเล่นลูก Fade และจะบังคับลูก Draw เมื่อจำเป็นเท่านั้น

Credit : https://www.thaigolfguru.com/